คำเตือน : การลงทุนใน ตลาดหุ้น, ทองคำ, Forex & CFDs, Crypto มีความเสี่ยงสูงผู้ที่สนใจโปรดศึกษาข้อมูลให้เข้าใจ ก่อนการตัดสินใจลงทุน

Forex Thaiclub

ให้ความรู้เกี่ยวกับ FOREX ชุมชนนักเทรดประเทศไทย ศึกษา วิเคราะห์ แชร์ประสบการณ์

Forex Thaiclub

ให้ความรู้เกี่ยวกับ FOREX ชุมชนนักเทรดประเทศไทย ศึกษา วิเคราะห์ แชร์ประสบการณ์

Forex Thaiclub

ให้ความรู้เกี่ยวกับ FOREX ชุมชนนักเทรดประเทศไทย ศึกษา วิเคราะห์ แชร์ประสบการณ์

Forex Thaiclub

ให้ความรู้เกี่ยวกับ FOREX ชุมชนนักเทรดประเทศไทย ศึกษา วิเคราะห์ แชร์ประสบการณ์

Forex Thaiclub

ให้ความรู้เกี่ยวกับ FOREX ชุมชนนักเทรดประเทศไทย ศึกษา วิเคราะห์ แชร์ประสบการณ์

คำถามที่พบบ่อย - Forex - ฟอเร็กซ์

1. คำถามพื้นฐานทั่วไป
คำถาม: เล่น Forex แล้วได้เงินจริงหรือเปล่า ?
ตอบ: ได้จริงและเสียจริงครับ อยู่ที่ว่าคุณทำได้หรือเปล่า มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ คุณต้องขยันศึกษาหาความรู้ หาเทคนิคในการทำกำไร มีหลายคนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำเป็นอาชีพหลักได้เลย อยู่ที่การฝึกฝนครับ เหมือนเป็นอาชีพหนึ่งถ้าคุณตั้งใจ การเล่น Forex จะคล้ายๆ การเล่นหุ้น แต่เป็นการซื้อขายค่าเงินระหว่างคู่เงินแทน เป็นการเก็งกำไรจากค่าเงิน ตลาดเงินจะคล่องตัวกว่าตลาดหุ้นมาก ในโปรกเกอร์ Forex จะมีเงินปลอมให้ทดลองเทรด ควรศึกษาให้เข้าใจก่อน แล้วจึงเล่นด้วยเงินจริงครับ ขยันศึกษา+ฝึกฝน+มีระเบียบวินัย+การบริหารความเสี่ยง จะทำให้ประสบความสำเร็จใน Forex ได้ครับ

คำถาม: ตลาด Forex เปิดทำการตอนไหน ?
ตอบ: ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์ - ศุกร์ มีการซื้อและขาย และแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ตลอดเวลา โดยมีกำหนดเริ่มต้นวันแรกของแต่ละสัปดาห์ ตั้งแต่ 04.00 ของเช้าวันจันทร์ สิ้นสุดที่ 04.00 ของเช้าวันเสาร์ (คืนวันศุกร์)

คำถาม:ใครเป็นผู้ซื้อขายในตลาด Forex ?
ตอบ: ในตลาด forex มี Trader อยู่ทั่วโลก เข้ามาซื้อ-ขายด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป คือ
* ซื้อขายเพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือเพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินที่มีอยู่
* ซื้อขายเพื่อทำกำไรจากการขึ้น-ลงของค่าเงินของประเทศต่างๆ
- ธนาคารกลางของรัฐบาลประเทศต่างๆ(BANK OF NATION)
- ธนาคารพาณิชย์(BANK)
- สถาบันการเงินเพื่อการลงทุน(FINANCE)
- บริษัทประกันภัย(INSURANCE)
- โบรกเกอร์ หรือตัวแทนจำหน่าย(Broker&AGENCY)
* ซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้า บริการ และการท่องเที่ยว
- บุคคลทั่วไป(TRADER)

คำถาม: Forex ต่างจากการพนันอย่างไร ?
คำตอบ: การพนัน เรียนรู้ไม่ยาก ได้-เสียอยู่ที่ดวง แทงได้-ทายแม่นก็โชคดีไป แทง/ทายไม่ถูก เจ้ามือกินเรียบ Forex ต้องเรียนรู้ ใช้หลักเศรษฐศาสตร์ และสถิติ เล่นไม่ให้เสียเลยก็ได้ หากเล่นอย่างไม่รีบร้อนและมีหลักการ แถมหากท่านทายไม่ถูก แต่ท่านไม่กดปุ่ม “close” คำสั่งท่านก็ยังไม่เสีย และรอจนกว่าจะถูก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในพอร์ตเพียงพอต่อการโดนลาก ก่อนกลับมาบวก

คำถาม: ข้อดีของตลาด Forex คืออะไร ?
คำตอบ: ตลาด Forex มีข้อดีหลายประการ ดังต่อไปนี้
- เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกและจะยังคงเติบโตต่อไปอย่างรวดเร็ว
- การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ(internet)อย่างแพร่หลาย ทำให้ทุกคนสามารถใช้บริการ และดำเนินธุรกิจนี้ได้อย่างสะดวกสบาย

คำถาม: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินคืออะไร ?
คำตอบ: ตลาด Forex ถูกขับเคลื่อนไปโดยอุปสงค์และอุปทาน
อุปสงค์ - หากผู้ซื้อมีมากกว่าผู้ขาย ราคาก็ขึ้น
อุปทาน - หากผู้ขายมีมากกว่าผู้ซื้อ ราคาก็ลง

2. คำถามเกี่ยวกับอภิธานศัพท์
คำถาม: Pips หรือ Points คืออะไร ?
คำตอบ: Pip (Price Interest Point) หรือ Point (จุด) คือ ค่าต่ำสุดของราคา ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งก็คือจุดทศนิยมหลักสุดท้ายของราคานั่นเอง เช่น EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.3630 เมื่อราคาขึ้นไปเป็น 1.3631 หรือ USD/JPY ราคาอยู่ที่ 115.70 ขึ้นไปเป็น 115.71 ก็คือขึ้นไป 1 Pip หรือ 1 point

คำถาม: Margin คืออะไร ?
คำตอบ: คือวงเงินของเรา จะมี Available Margin= วงเงินคงเหลือที่ใช้ซื้อขายได้, Used Margin= วงเงินที่เราใช้ไป

สูตร >> Available Margin = เงินในบัญชี - Used Margin + Profit

สมมุติ เริ่มต้นเรามีเงิน $5 ยังไม่ได้เทรด Used Margin เป็น 0 เราก็จะมี Available Margin=5.0 ถ้าเราทำการเทรดซื้อ EUR/USD ไป $1 จะเกิด Used Margin=1.0 และเหลือ Available Margin เกือบ 4.0 (เนื่องจากถูกหักค่า Spread 2 pips เป็นค่าติดลบใน Profit) ถ้าราคาขึ้นไปจนเราได้กำไร +10 point เราจะได้ Profit=0.1 ค่า Available Margin จะเพิ่มเป็น 4.1 point ถ้าราคา + ขึ้นไปเรื่อยๆ เราจะได้ Available Margin เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ในทางกลับกัน ถ้าเราขาดทุน ค่า Profit จะติด - และ Available Margin เราจะลดลงแทน หากเราไม่ตัดขาดทุนจะลดลงไปเรื่อยๆ จน Margin เกือบหมดเราจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ เรียกว่า Margin Call โดนไปทีแทบไม่เหลืออะไรเลย จึงควรรักษา Margin ไว้ให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่งครับ

คำถาม: Long และ Short คืออะไร ?
คำ ตอบ: Long คือ ซื้อไว้แล้วขาย หลักคือเราต้องซื้อไว้ที่ราคาถูกแล้วไปขายที่ราคาแพงกว่า เราก็จะได้กำไรจากส่วนต่าง ตอนเราเปิด Long ก็คือ ส่งคำสั่งซื้อ หรือ Send Buy Order ไปที่ Marketiva และจะเกิด Long Position ขึ้น

Short คือ ขายออกแล้วซื้อกลับ หลักคือเราขายออกไปก่อนที่ราคาสูง แล้วไปซื้อกลับคืนเมื่อราคาต่ำกว่า เราก็จะได้กำไรที่ส่วนต่าง ตอนเราเปิด Short ก็คือ ส่งคำสั่งขาย หรือ Send Sell Order ไปที่ Marketiva และจะเกิด Short Position ขึ้น

ตลาด Forex จะต่างจากตลาดหุ้น คือสามารถเทรดได้ทั้งสองทาง ทั้งซื้อและขาย เล่นได้ทั้ง ขาขึ้น และขาลง ตลาดหุ้นซื้อได้อย่างเดียว เล่นได้แต่ขาขึ้น ถ้าเป็นขาลงต้องนอนรออย่างเดียว

คำถาม: Stop-Loss (SL) คืออะไร ?
คำตอบ: Stop Loss ปกติจะเห็นในห้องแชทพิมพ์ว่า SL (sl) คือจุดที่เรายอมขาดทุน ตรงข้ามกับ TP

- Buy (Long) Order ค่า Stop Loss จะตั้งไว้ต่ำกว่าราคาที่เราซื้อ ถ้าราคาลดลงไปถึงจุดที่กำหนด จะถูกปิดออเดอร์ทันที เพื่อตัดขาดทุน เช่น เราซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.3630 เรายอมขาดทุนได้ 30 จุด ก็ตั้ง SL ไว้ที่ 1.3600 ถ้าราคาไม่ขึ้นตามที่เราตั้งใจแต่กลับลดลงมาถึง 1.3600 เราก็จะขาดทุนเพียง 30 จุด ถ้าเราไม่ตัดขาดทุน ราคาอาจจะลดลงไปมากกว่านี้เยอะ

- Sell (Short) Order จะตั้ง Stop Loss ไว้สูงกว่าราคาที่เราเปิด Sell ถ้าราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดโดยอัตโนมัติ

คำถาม: Target (Take Profit/TP) คืออะไร ?
คำตอบ: Target หรือ TP (Take Profit) คือเป้าหมายกำไรที่เราต้องการ ตรงข้ามกับ SL

- Buy (Long) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับขึ้น เราอาจใช้แนวต้าน เป็นเป้าหมายทำกำไร เมื่อราคาขึ้นไปถึงจุดนั้น จะถูกขายออกโดยอัตโนมัติ

- Sell (Short) Order เราจะได้กำไรเมื่อราคาปรับลดลง เราอาจใช้แนวรับเป็นเป้าหมาย เมื่อราคาลงไปถึงจุดนั้น จะถูกปิดออเดอร์ โดยอัตโนมัติ

คำถาม: การตั้งซื้อขายแบบ Limit / Stop คืออะไร ?
คำตอบ: เป็นการตั้งซื้อขายไว้ล่วงหน้า หรือ Pending Order จะยังไม่มี Position เกิดขึ้น

Limit Order ใช้ตั้ง ซื้อที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน ตัวอย่างถ้าตอนนี้ EUR/USD ราคาอยู่ที่ 1.2953/55 ถ้าเราคิดว่ามันเป็นเทรนขาขึ้น และราคาแพงเกินไป เราอยากซื้อราคาต่ำกว่านี้แต่ไม่ว่างนั่งดู เราอาจตั้ง Buy Limit Order ไว้ที่ราคา 1.2945 ถ้าราคาลดลงมาถึงจุดก็จะถูกซื้อโดยอัตโนมัติ และเมื่อราคาขึ้นไปตามคาด เราก็จะได้กำไรเพิ่มขึ้นถึง 10 จุด สำหรับ Sell Limit ก็กลับกัน

Stop Order คือ ตั้งซื้อที่ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน หรือ ตั้งขายที่ราคาต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ใช้เมื่อเราไม่ว่างนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าจอเทรด และใช้สำหรับจับเทรน ตัวอย่าง EUR/USD ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1.2953/55 เราคิดว่าถ้าราคาผ่านแนวต้านที่ 1.2963/65 ขึ้นไป (Breakout) แล้วน่าจะขึ้นไปต่อ เราอาจตั้ง Buy Stop Order ไว้ที่ 1.2970 เมื่อราคาทะลุขึ้นไปก็จะซื้อให้อัตโนมัติ สำหรับ Sell Stop ก็กลับกันครับ ถ้าคิดว่าจะหลุดแนวรับเราก็ตั้ง Sell Stop Order ไว้ใต้แนวรับ

คำถาม: เวลาเปิดให้เทรดได้เวลาไหน และปิดเวลาใด ?
คำตอบ: ตลาดเปิดให้เทรดเวลา 4.00 เช้าวันจันทร์ ไปจนถึงปิดเวลา 4.00 น. เช้าวันเสาร์ สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คำถาม: เปิดซื้อขายทิ้งไว้ แล้วออกโปรแกรมไป หรือไฟดับ จะเป็นอะไรไหม ?
คำตอบ: ไม่เป็นไรครับ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ทางโบรกเกอร์ เมื่อเรากลับเข้ามาอีกที อาจจะ + เป็น 100 หรือ - เป็น 100 ก็ได้ตามราคาตลาดในตอนนั้น หรือแม้แต่เปิดทิ้งไว้จนถึงปิดตลาดเช้าวันเสาร์ พอวันจันทร์ตลาดเปิด ก็ยัง + - ไปตามราคาตลาดต่อไป จนกว่าเราจะสั่งปิดเอง หรือ ราคาชน Target หรือ ราคาชน Stop-Loss หรือ ถูก Margin Call เพราะ margin หมด

คำถาม: Spread (2/3 pips) คืออะไร ?
คำตอบ: ที่เห็น 2 pips หรือ 3 pips for EUR/USD เป็นผลต่างระหว่าง ราคาซื้อ (Bid) กับราคาขาย (Offer) ครับ ตอนที่เราซื้อเราจะซื้อที่ราคาขาย (Offer บางโบรกเกอร์ เรียกว่า Ask) พอจะขายก็ต้องขายที่ราคาซื้อ (Bid) นะครับ ยกตัวอย่าง ร้านทองก็มี ราคาซื้อ-ราคาขาย ติดไว้ที่หน้าร้าน เวลาคุณจะไปซื้อทอง ก็ต้องซื้อที่ราคาขาย (Offer) พอจะขายคืนก็ต้องขายให้ที่ราคาที่เค้ารับซื้อ (ฺBid) ถ้าซื้อแล้วขายเลยก็ขาดทุนแน่ๆ ครับ เพราะราคารับซื้อเค้าจะต่ำกว่าราคาขาย ใน Forex ก็คล้ายๆกัน จะเห็นว่าพอเราเปิดซื้อขายมาออเดอร์นึง จะลบทันที 2 จุด (pips) สำหรับ EUR/USD ใน โปรกเกอร์ผู้ให้บริการ เหมือนเป็นค่าต๋งนะแหละครับ ยังไงเปิดมาก็ต้องลบ EUR/USD ปกติจะมี Spread ต่ำสุด แล้วแต่ว่าแต่ละโบรกเกอร์จะกำหนดเท่าไหร่ครับ บางโบรกเกอร์ก็ 3 pips สำหรับตัวอื่นค่า Spread ส่วนมากก็จะมากกว่านี้ครับ เช่น GBP/USD 4 pips หรือตัวที่วิ่งเยอะๆ เช่น GBP/JPY ถึง 8 pips เปิดมา -8 ทันทีเลยครับ

คำถาม: Leverage (ที่เห็น 1:100, 1:200) คืออะไร ?
คำตอบ: ค่า Leverage เป็นตัวช่วยเวลาเราลงทุนครับ เป็นการให้ Margin เราเพิ่มตอนเทรด ยกตัวอย่าง ถ้าเราจะเทรด 100 หน่วยของ USD/JPY เราต้องใช้เงินถึง $100 ดอลลาร์ (Leverage 1:1) ถ้าโบรกเกอร์ให้ Leverage เรา 1:100 ก็คือ เราใช้เงินลงทุนเพียง $100/100=$1 หรือใช้เงินเพียง 1 ดอลลาร์เท่านั้น

แล้วมีผลยังไง? 1:100 เราลงทุน 1$ เหมือนลงทุนไป 100$ ทำให้เราได้กำไร (หรือขาดทุน) เพิ่มขึ้นด้วยเงินเพียงนิดเดียว ถ้า Leverage มากขึ้น ก็ยิ่ง กำไรขาดทุนมากขึ้นไปอีกครับ ที่เงินลงทุนเท่ากัน ยิ่ง Leverage เยอะเวลา - ยิ่งขาดทุนเยอะนะครับ ต้องระวังไว้ด้วย

ในโบรกเกอร์ จะมีการกำหนด Leverage ที่ต่างกันแล้วแต่ทางโบรกเกอร์เค้าครับ 1:100, 1:200 หรือ บางโบรกเกอร์ 1:500 ก็มี เช่นค่า Leverage 1:100 ถ้าเราซื้อ EUR/USD $1 ถ้าราคาขึ้นไป 10 จุดแล้วขาย เราก็จะได้กำไร $0.1 ถ้าไม่มีค่า Leverage หรือเป็น 1:1 เราจะได้กำไรเพียง $0.001 เท่านั้น

คำถาม: Swap คืออะไร ?
คำตอบ: เป็นข้อตกลงระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย ที่จะทำการแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดในอนาคต เช่น
บริษัท ก. ซึ่งมีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราลอยตัว ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นภาระดอกเบี้ยในอัตราคงที่กับบริษัท ข. ข้อตกลงเช่นนี้เรียกว่า Interest Rate Swap บริษัท ค. ซึ่งมีเงินกู้เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ต้องการแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลบาทกับบริษัท ง. ข้อตกลงเช่นนี้เรียกว่า Currency Swap สำหรับในตลาด Forex นั้นบางโปรกเกอร์อาจคิดค่า Swap ผลอาจเป็นบวก หรือ ลบ กรณีถือออเดอร์ข้ามคืน

Popular Posts

ปฎิทินเศษฐกิจโลก



Big Thanks
Google & Youtube

Tags1 : เทรด FOREX, เล่นหุ้นออนไลน์, ตลาดหลักทรัพย์
Tags2 : งานผ่านเน็ต, ลงทุนธุรกิจ, เส้นทางเศรษฐี
 

โบรกเกอร์แนะนำ

สถิติชมเว็บ

จำนวนผู้ออนไลน์ขณะนี้

Translate

นโยบายความเป็นส่วนตัว